สำนักศิลปะและวั…
คณะผู้บริหารและบุคลากรสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ณ ญี่ปุ่น เสริมสร้างความรู้และความร่วมมือทางวิชาการ
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยนายธีรพันธุ์ จันทร์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ได้นำคณะผู้บริหารและบุคลากรเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นการศึกษา พิพิธภัณฑ์วิทยา คติชนวิทยา และการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ เมื่อวันที่ 20-22 ตุลาคม 2568 ณ ประเทศญี่ปุ่น
การศึกษาเรียนรู้ครั้งนี้เริ่มต้นที่ พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาแห่งชาติ (National Museum of Ethnology – Minpaku) ณ เมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านชาติพันธุ์วิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก คณะฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการถาวรที่จัดแสดงวิถีชีวิต เครื่องแต่งกาย และวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิทรรศการข้ามวัฒนธรรมที่นำเสนอดนตรีและภาษา ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านมนุษยวิทยาและชาติพันธุ์วิทยา
จากนั้น คณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทโอซาก้า สัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เพื่อศึกษาสถาปัตยกรรมปราสาท การออกแบบป้องกันภัย และเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเซ็นโกคุ โดยเฉพาะบทบาทของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ที่มีอิทธิพลต่อการรวมชาติญี่ปุ่น
ต่อมา คณะได้มุ่งหน้าสู่เมืองนารา อดีตเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับ อนุสรณ์ประวัติศาสตร์โบราณสถาน เมืองนารา (Historic Monuments of Ancient Nara) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ไฮไลท์ของการศึกษาเรียนรู้ คือการเยี่ยมชม วัดโทไดจิ (Tōdai-ji Temple) คณะฯ ได้เข้าสักการะ พระพุทธรูปไดบุตสึ (Daibutsu) ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร ไดบุตสึเด็น (Daibutsuden) ซึ่งเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นโอกาสในการศึกษาความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมไม้โบราณ และทำความเข้าใจรากฐานของพระพุทธศาสนาในยุคนารา ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของการก่อร่างสร้างอารยธรรมญี่ปุ่น
การศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างองค์ความรู้เชิงลึกด้านศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักศิลปะและวัฒนธรรมกับสถาบันทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

























